รีแพร์ช่องคลอดคืออะไร?

สาเหตุที่ทำให้ช่องคลอดหย่อนยาน

รีวิวรีแพร์กระชับช่องคลอดตั้งแต่การเตรียมตัว
กระบวนการทำ การดูแลตัวเองหลังผ่าตัด

รีวิว การเตรียมตัวก่อนทำรีแพร์ช่องคลอด

1. ปรึกษาแพทย์: สิ่งสำคัญที่สุดก่อนการทำรีแพร์กระชับช่องคลอดคือการปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญทางด้านการศัลยกรรมช่องคลอดเพื่อรับคำแนะนำและวินิจฉัยอาการอย่างถูกต้อง
2. ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับกระบวนการ: ค้นคว้าข้อมูลเกี่ยวกับกระบวนการรีแพร์กระชับช่องคลอดเพิ่มเติม เพื่อเข้าใจถึงวิธีการดำเนินการ ข้อดี และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น
3. เตรียมร่างกายให้พร้อม: ควรรักษาสุขภาพร่างกายด้วยการออกกำลังกายอย่างเหมาะสมและรับประทานอาหารที่มีคุณค่าโภชนาการเพียงพอ
4. หยุดการใช้ยาบางชนิด: ควรหยุดยาบางชนิดตามที่แพทย์แนะนำก่อนการทำรีแพร์ช่องคลอด เช่น ยาลดความอยากอาหารหรือยาที่มีผลข้างเคียงที่อาจเป็นอุปสรรคต่อฟื้นฟูร่างกายหลังจากการรักษา
5. รักษาความสะอาด: การรักษาให้ช่องคลอดสะอาดก่อนทำรีแพร์ช่องคลอดเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ
6. เตรียมจิตใจให้พร้อม: มีการเตรียมจิตใจก่อนเข้ารับกระบวนการรักษา และรับฟังคำแนะนำจากแพทย์เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

1. การสำรวจและการเตรียมตัวก่อนผ่าตัด

• แพทย์จะทำการตรวจร่างกายเพื่อประเมินสภาพปัจจุบันของช่องคลอดและความเหมาะสมสำหรับการรีแพร์ และประเมินความพร้อมของผู้เข้ารักษา

2. การให้ยานอนหลับ

• แพทย์จะให้ยานอนหลับแก่ผู้เข้ารับการทำรีแพร์ช่องคลอด และฉีดยาชาบริเวณแถวช่องคลอด

3. ผ่าตัดรีแพร์ช่องคลอด

• แพทย์จะทำการผ่าเปิดในบริเวณผนังช่องคลอด เพื่อเข้าถึงช่องคลอดที่ต้องรีแพร์ โดยการทำแผลนั้นอาจจะเป็นแผลด้านหน้าหรือด้านหลังของช่องคลอด ขึ้นอยู่กับวิธีการผ่าตัดและความเหมาะสมที่แพทย์เลือกใช้
• หลังจากที่เข้าถึงช่องคลอดแล้ว แพทย์จะทำการรีแพร์เพื่อซ่อมแซมและเสริมสร้างเนื้อเยื่อให้มีความกระชับและสวยงาม

4. การปิดแผล

• เมื่อการรีแพร์เสร็จสิ้นแล้ว แพทย์จะทำการปิดแผลโดยเย็บด้วยไหมละลาย ซึ่งจะละลายหายไปเองภายใน 4-6 สัปดาห์​

รีวิว การดูแลตัวเองหลังผ่าตัดรีแพร์ช่องคลอด

1. รักษาความสะอาด: รักษาความสะอาดของบริเวณช่องคลอดอย่างเคร่งครัดโดยการล้างด้วยน้ำอุ่นและสบู่อ่อนโยน หรือใช้น้ำยาล้างแผลที่แพทย์แนะนำ
2. ใช้ยาต้านอักเสบ: คุณอาจจะต้องใช้ยาต้านปวดตามคำแนะนำของแพทย์เพื่อควบคุมความเจ็บปวด
3. หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่เป็นอันตราย: หลีกเลี่ยงการยกของหนักหรือกิจกรรมที่อาจทำให้บริเวณช่องคลอดได้รับแรงกระตุ้นมากเกินไป เช่น ยืนนานเกินไป ทำงานบ้านหนัก ยกของหนัก หรือออกกำลังกายที่มีการใช้แรงมากเกินไป
4. การให้พักผ่อนเพียงพอ: ให้ร่างกายมีเวลาในการฟื้นตัวอย่างเพียงพอโดยพักผ่อนในระยะเวลาที่แพทย์แนะนำ
5. ควบคุมอาหารและดื่มน้ำให้เพียงพอ: รับประทานอาหารที่มีประโยชน์และดื่มน้ำมากๆ เพื่อช่วยให้ร่างกายมีพลังงานเพียงพอสำหรับการฟื้นตัว
6. ทำท่ายกกระชับ: การทำท่ายกกระชับช่องคลอดจะช่วยในการกระตุ้นและฟื้นฟูกล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อบริเวณช่องคลอด
7. ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์: คำแนะนำจากแพทย์เป็นสิ่งสำคัญที่ต้องปฏิบัติอย่างเคร่งครัด เพื่อให้การฟื้นฟูเป็นไปอย่างปลอดภัยเหมาะสม