รีแพร์ช่องคลอด ทางเลือกแก้ไขช่องคลอดหย่อนยาน

 

 



ช่องคลอดที่หย่อนยานและไม่กระชับเต่งตึง เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นได้สำหรับผู้หญิงทุกๆ คนไม่ว่าจะอายุมากหรือน้อยอยู่ก็ตาม เนื่องจากปัญหาช่องคลอดหย่อนยานนี้มีสาเหตุการเกิดได้จากหลายสาเหตุและมีผลกระทบตามมาต่อการใช้ชีวิตประจำวัน การดูแลรักษาช่องคลอดจึงเป็นสิ่งสำคัญ และเพื่อช่องคลอดที่กระชับเต่งตึง การรีแพร์ช่องคลอดจึงเป็นทางเลือกที่ดีในการรักษา โดยการรีแพร์กระชับช่องคลอดเป็นวิธีที่ปลอดภัย ได้มาตรฐาน และเป็นที่นิยมกันทั่วโลก

 

ช่องคลอดหย่อนยานเกิดจากอะไร?

 

ปัญหาช่องคลอดหย่อนยาน (Pelvic Organ Prolapse) มีสาเหตุมาจากหลายปัจจัยและองค์ประกอบต่างๆ ซึ่งอาจทำให้ช่องคลอดมีความหย่อนคล้อยจากปกติ โดยสาเหตุที่ทำให้ช่องคลอดมีความหย่อนยานมีดังนี้:

 
  1. พันธุกรรม: ความสมบูรณ์ของส่วนโครงสร้างภายในของผู้หญิงสามารถถ่ายทอดผ่านพันธุกรรมได้ หากมีประวัติในครอบครัวที่มีปัญหาเกี่ยวกับการหย่อนของช่องคลอด นั้นอาจเป็นตัวบ่งชี้ว่ามีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดปัญหาเดียวกันในรุ่นต่อไป

  2. การตั้งครรภ์และการคลอด: การตั้งครรภ์และการคลอดมักเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุดในการเสี่ยงต่อการหย่อนยานของช่องคลอด เพราะกระบวนการนี้ส่งผลต่อการยืดและเปราะบางของกล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อในช่องคลอด 

  3. สภาพทางกายภาพ: การทำงานที่ต้องใช้แรงมากๆ เช่น ยกของหนักๆ หรือการใช้กล้ามเนื้อในบริเวณนั้นเป็นเวลานานๆ อาจเป็นสาเหตุให้เกิดการหย่อนยานได้

  4. อายุ: ความแข็งแรงและความยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อในช่องคลอดจะลดลงตมอายุที่เพิ่มขึ้นและฮอร์โมนที่เปลี่ยนไป

 

ปัญหาช่องคลอดหย่อนยานสามารถเกิดขึ้นในทุกๆ ช่วงอายุ การรักษาขึ้นอยู่กับความรุนแรงของปัญหาและสถานะของผู้ป่วย บางกรณีอาจต้องการใช้การผ่าตัดรีแพร์เพื่อซ่อมแซมช่องคลอด หรือบางกรณีที่มีปัญหาช่องคลอดหย่อนยานไม่มาก อาจใช้การรักษาแบบเลเซอร์รีแพร์ได้

 

ปัญหาที่ตามมาจากช่องคลอดที่หย่อนยานไม่กระชับ

 

ช่องคลอดหย่อนยานทำให้เกิดปัญหาอะไรบ้าง

 

การหย่อนยานของช่องคลอดที่ทำให้ช่องคลอดไม่กระชับและเต่งตึงอาจทำให้เกิดปัญหาต่อสุขภาพกายและสุขภาพจิตใจได้ดังนี้:

 
  1. การทำกิจวัตรประจำวัน: การหย่อนยานของช่องคลอดอาจทำให้การทำกิจวัตรประจำวันมีความยากลำบากมากขึ้น เช่น การกินอาหารหรือการถ่ายอุจจาระ

  2. การมีเพศสัมพันธ์: ช่องคลอดหย่อนคล้อยอาจทำให้เกิดความไม่สะดวกในการมีเพศสัมพันธ์ สามารถทำให้เกิดอาการปวดหรือความไม่สบาย และนำมาซึ่งการมีปัญหาเรื่องบนเตียงกับคู่รัก

  3. การติดเชื้อ: ช่องคลอดที่ไม่กระชับอาจทำให้เกิดปัญหาในกระเพาะปัสสาวะได้ ซึ่งอาจเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดการติดเชื้อในช่องคลอดและอวัยวะที่เกี่ยวข้องได้

  4. การเสื่อมสภาพของช่องคลอด: อาจส่งผลต่อการควบคุมการกลั้นของอุจจาระและปัสสาวะ

  5. อาการคันและระคายเคือง: การหย่อนยานของช่องคลอดอาจทำให้เกิดอาการคันและระคายเคืองในบริเวณช่องคลอด

  6. ความไม่พึงพอใจและความไม่มั่นใจในตัวเอง: ปัญหาเหล่านี้อาจทำให้ผู้หญิงเกิดความไม่มั่นใจในตัวเอง

 

ด้วยปัญหาต่างๆ ที่ตามมานี้จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้คนที่มีปัญหาเกี่ยวกับช่องคลอดหย่อนยาน ไม่เต่งตึง หรือมีปัญหาทางช่องคลอดต้องหาวิธีรักษา โดยวิธีรักษาที่สามารถให้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจได้ คือ การรีแพร์กระชับช่องคลอด ซึ่งกรรีแพร์ช่องคลอดมีอยู่หลายวิธีและกระบวนการ การเลือกรับแต่ละกระบวนการจะขึ้นอยู่กับปัญหาของแต่ละบุคคลและความต้องการในผลลัพธ์ ที่สำคัญคือคุณควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อรับวิธีการรักษาที่เหมาะสมและเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

 

การทำรีแพร์โดยกระบวนการทางการแพทย์

 

การทำรีแพร์แบบผ่าตัดและไม่ผ่าตัด

 

การทำรีแพร์สามารถแบ่งออกเป็น 2 วิธีหลักๆ คือการรีแพร์แบบผ่าตัด (Surgical Repair) และการรีแพร์แบบไม่ผ่าตัด (Non-surgical Repair) ดังนี้:

 

การรีแพร์แบบผ่าตัด (Surgical Repair)

การรีแพร์แบบผ่าตัดเน้นการซ่อมแซมอวัยวะหรือโครงสร้างที่เสียหายอย่างรุนแรง เช่น ช่องคลอดมีความหย่อนยานมากหรือสูญเสียมาก โดยการรีแพร์แบบผ่าตัดมีอยู่มากมายดังนี้

 
  • ผ่าตัดรีแพร์: คือ การผ่าตัดตกแต่งกล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อที่หย่อนยานภายในช่องคลอดให้กระชับขึ้น เพื่อให้ขนาดหรือเส้นผ่าศูนย์กลางของช่องคลอดเล็กลง

  • ตกแต่งแคมเล็ก (Labia Minora Plasty): เป็นการผ่าตัดเพื่อลดขนาดเลเบียที่อยู่บริเวณปากช่องคลอดให้มีรูปลักษณ์ที่สวยงามมากขึ้น

  • ตกแต่งแคมใหญ่, ยกกระชับ (Labia Majora Plasty , Lifting): เป็นการผ่าตัดลดขนาดแคมใหญ่หรือแคมนอกที่อยู่บริเวณข้างของปากช่องคลอดให้มีความสวยงามขึ้น

  • เติมไขมันแคมใหญ่ (Fat Transfer to Labia Majora): เพิ่มความอวบอูม โหนกนูน และเต่งตึงให้กับอวัยวะเพศของผู้หญิง 

  • แต่งหนังหุ้มคลิตอริส (Clitorical Hoodectomy): ผ่าตัดตกแต่งหนังส่วนเกินที่หุ้มปุ่มคลิตอริสในแต่ละด้านออก เพื่อเพิ่มความรู้สึกระหว่างมีเพศสัมพันธ์ของผู้หญิง

  • ตกแต่งเยื่อพรหมจารี (Hymenoplasty): เย็บเยื่อพรหมจารีและเนื้อเยื่อรอบๆ ที่ฉีกขาดให้กลับมาเป็นเหมือนเดิมก่อนฉีกขาด

 

การรีแพร์แบบไม่ผ่าตัด (Non-surgical Repair):

การรีแพร์แบบไม่ต้องผ่าตัดในปัจจุบันก็มีอยู่มากมายและก็เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพเช่นกัน แต่จะเหมาะกับคนที่มีปัญหาช่องคลอดไม่หย่อนยานมาก โดยมีหลายแบบดังนี้

 
  • ฉีดฟิลเลอร์แคมใหญ่: เป็นการเพิ่มขนาดหรือความเต่งตึงให้กับแคมใหญ่

  • O-Shot (PRP for sexual dysfunction treatment): ช่วยกระตุ้นความรู้สึกทางเพศ สร้างคอลลาเจนในผนังช่องคลอด กระชับช่องคลอด และเพิ่มน้ำหล่อลื่น

  • G-Shot (HA for improve sexual gratification): เป็นการฉีดฟิลเลอร์เพื่อเพิ่มขนาดให้กับ G Spot ซึ่งเป็นจุดที่ทำให้ผู้หญิงถึงจุดสุดยอด

  • ฉีด Botox รักษาอวัยวะเพศล็อก: เป็นการช่วยลดภาวะหดเกร็งของช่องคลอดหรืออาการอวัยวะเพศล็อก

  • NC Repair (เลเซอร์กระชับช่องคลอด): ช่วยดูแลน้องสาว คืนความฟิต และปรับสีผิวของอวัยวะเพศ

  • NC Chair (เก้าอี้กระชับช่องคลอด): ช่วยให้ช่องคลอดกระชับ ลดอาการตกขาว ลดกลิ่นไม่พึงประสงค์ และลดอาการปัสสาวะเล็ด

  • Pico (ปรับสีผิวอวัยวะเพศ): เป็นการทำเลเซอร์รีแพร์ที่ช่วยปรับสีผิวบริเวณจุดซ่อนเร้นให้กระจ่างใสยิ่งขึ้น และช่วยให้อวัยวะเพศเรียบเนียน

  • Diode Laser (กำจัดขนบริเวณอวัยวะเพศ): เป็นการทำเลเซอร์เพื่อกำจัดขนบริเวณจุดซ่อนเร้น ช่วยให้ขนที่งอกใหม่บางลง ลดหนังไก่ กระตุ้นคอลลาเจนทำให้ผิวเรียบเนียน

 

การเลือกใช้วิธีการรีแพร์ในแต่ละกรณีจะขึ้นอยู่กับความรุนแรงของปัญหา ความพร้อมของผู้ป่วย และความเหมาะสมของแต่ละวิธีในการแก้ไขปัญหาที่เจอ การปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านการกระชับช่องคลอดจึงเป็นสิ่งสำคัญเพื่อเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสมที่สุดในแต่ละกรณีและได้ผลลัพธ์ที่ดีและปลอดภัย

 

สอบถามเรื่อง รีแพร์ (Repair) เพิ่มเติมได้ที่ Natcahya Clinic ศูนย์ศัลยกรรมตกแต่งและดูแลสุขภาพจุดซ่อนเร้นเพศหญิง

CALL: 084-422-2962

LINE: @natchayaclinic

 

https://www.natchayaclinic.com/womenplus/

https://goo.gl/maps/Ptp8j43mBfQW1mRw8?coh=178571&entry=tt