Electro Interstitial Scan (EIS หรือ Estreck)

Electro Interstitial Scan Electrointerstitial scan หรือ EIS
เป็นเทคโนโลยีใหม่หลักการทำงานของเครื่องก็คือ เครื่องจะปล่อยกระแสไฟฟ้าอ่อนๆ ที่ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกายของเราผ่านตัวนำไฟฟ้าหรือ Electrode ซึ่งจะติด Electrode ที่หน้าผากสองจุด โดยเครื่องจะตรวจวัด จังหวะการเต้นของหัวใจและวัดระดับความเข้มข้น ของออกซิเจนในเลือดโดยผ่านตัวตรวจวัดที่เรียกกันว่า Probe ที่หนีบอยู่ที่นิ้วขี้มือซ้ายเครื่องจะประเมินการนำกระแสไฟฟ้าในส่วนต่างๆของร่างกาย 22 ส่วน ใช้เวลาในการตรวจวิเคราะห์เพียง 10นาทีก็จะทราบผลการตรวจ


 
โปรแกรมการทำงานของเครื่องจะประเมินสิ่งต่างๆ ดังต่อไปนี้
- ประเมินความสมดุลของความเป็นกรด-ด่าง ขอขงของเหลวที่อยู่ในเซลล์และนอกเซลล์และการทำงานของNA+/K+ATPasepumpactivityคือปั๊มที่อยู่ที่ผิวเซลล์มีหน้าที่ในการขับสารโซเดียมและโปแตสเซียมเข้าออกเซลล์โดยปั๊มนี้จะทำงานได้ต้องอาศัยพลังงานที่เซลล์สร้างขึ้น
- ประเมินระดับออกซิเจนที่ไปถึงเนื้อเยื่อของอวัยวะต่างๆน่างกาย รวมทั้งระดับความดันโลหิตในระบบการไหลเวียนของหลอดเลือดเล็กๆ
- ประเมินส่วนประกอบของร่างกาย เช่น TBW(Totalbodywater)คือปริมาณน้ำทั้งหมดที่มีอยู่ในร่างกายมวลไขมัน รวมทั้งมวลสารที่ปราศจากไขมัน หรือ fatfreemassเป็นต้น

การตรวจนี้จะช่วยบอกถึงอายุชีวิภาพ หรือ Biologicalageนั่น ก็คืออายุที่แท้จริงของร่างกายของเราโดยบอกถึงประสิทธิภาพการทำงานของระบบต่างๆ อันได้แก่ ระบบหลอดเลือดและหัวใจ ระบบหายใจระบบทางเดินอาหาร ระบบประสาท ระบบอวัยวะสืบพันธุ์ ระแบบฮอร์โมนต่อมไร้ท่อ ภาวะการสะสมของอนุมูลอิสระและสารต้านอนุมูลอิสระ เป็นต้น

การพัฒนาเทคโนโลยีที่ก้าวไกลเพื่อช่วยทำให้แพทย์ตรวจวิเคราะห์ได้ละเอียดแม่นยำมากขึ้นซึ่งการนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งในการตรวจวิเคราะห์ค้นหาโรค การวินิจฉัยแม่นยำมากขึ้นหากได้ทราบประวัติการเจ็บป่วยที่ชัดเจนจากผู้ป่วยเป็นสำคัญ

วิทยาการที่ก้าวไกลช่วยให้เราสามารถวางแผนสุขภาพเพื่อควบคุมโอกาสที่จะเกิดโรคต่างๆในอนาคตได้ตั้งแต่ยังไม่มีสัญญาณใดๆ ด้วยซ้ำดังนั้นไม่จำเป็นต้องรอให้ร่างกายฟ้องถึงความผิดปกติด้วยอาการของโรคแล้วจึงค่อยพบแพทย์เพราะเมื่อถึงเวลานั้นจะป้องกันก็คงสายไปแล้ว

ข้อดีในการตรวจสุขภาพด้วยระบบ EIS
1.การเตรียมตัวในการตรวจ ไม่มีความยุ่งยาก ไม่จำเป็นต้องงดน้ำ งดอาหารใดๆ
2.ทุกคนสามารถรับการตรวจวิเคราะห์ได้
3.ไม่ต้องเจาะเลือด หรือตรวจปัสสาวะ
4.ใช้เวลาน้อยในการตรวจและฟังผล (ระยะเวลาการตรวจ วิเคราะห์และทราบผลในเวลาเพียง 45-°©‐60 นาที)
5.สามารถวิเคราะห์แนวโน้มการเกิดโรคเพื่อป้องกันก่อนเกิดการเสื่อมของอวัยวะหรือเกิดโรค เช่น วิเคราะห์แนวโน้มการเป็นมะเร็ง หรือโรคหัวใจ เพื่อปรับปลี่ยนพฤติกรรมหรืออาหารที่ก่อให้เกิดโรค
6.ได้รับการวินิจฉัยจากแพทย์ที่เชี่ยวชาญทั้งแพทย์แผยปัจจุบันและเวชศาสตร์ชะลอวัย (Anti Aging)