การดูดไขมัน (liposuction) เป็นกระบวนการศัลยกรรมเสริมความงามที่ช่วยกำจัดไขมันส่วนเกินในบริเวณที่มีไขมันสะสมอยู่จำนวนมาก เช่น ตามบริเวณต้นขา ต้นแขน สะโพก เหนียง เป็นต้น ซึ่งขนาดแผลของการดูดไขมันส่วนใหญ่จะมีขนาดค่อนข้างเล็ก และแต่ละบุคคลที่เข้ารับการดูดไขมันจะมีแผลขนาดแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับบุคคลและบริเวณที่ดูดไขมัน
แผลหลังการดูดไขมัน (liposuction) จะเกิดขึ้นในบริเวณที่ผ่านกระบวนการดูดไขมัน และแผลเหล่านี้มักจะเล็กและมีขนาดเล็กมาก โดยทั่วไปแผลจะอยู่ในบริเวณที่ถูกดูดไขมันและมักจะตั้งอยู่ใต้ผิวหนัง ทำให้มองไม่ค่อยเห็น และมีแนวโน้มที่จะลดลงตามเวลาและการดูแลรักษา
ขนาดและลักษณะของแผลหลังการดูดไขมันอาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล แต่ส่วนใหญ่จะเป็นแผลเล็กๆ ที่ค่อนข้างยากในการมองเห็นหรืออยู่ในระยะยาว คุณควรปฏิบัติดูแลแผลอย่างรอบคอบตามคำแนะนำของแพทย์เพื่อให้แผลหายขาดได้ดีที่สุด แต่ละบุคคลสามารถจะมีแผลหลังการดูดไขมันที่แตกต่างกันไป แต่โดยทั่วไปแล้วแผลดูดไขมันมักจะเป็นแผลที่เล็กน้อยและคล้ายกับแผลเข็มฉีดหรือแผลบาดเจ็บเล็กๆ
1. งดการอาบน้ำเพื่อไม่ให้แผลโดนน้ำ โดยให้ทำความสะอาดร่างกายโดยการเช็ดตัว
2. ห้ามแผลโดนน้ำเป็นเวลา 1 สัปดาห์ จนกว่าแผลจะแห้ง
3. หลังจากดูดไขมันไป 3 วัน ไม่ควรขยับตัวมาก เพราะอาจจะส่งผลต่อแผล ทำให้เจ็บแผล และอาจทำให้แผลหายช้า
4. ควรทำแผลวันละครั้ง โดยทำความสะอาดโดยการใช้น้ำเกลือเช็ดบริเวณรอบๆ แผลและปิดพลาสเตอร์กันน้ำได้ตามปกติ
ส่วนใหญ่ของแผลดูดไขมันจะหายไปเองและกลับคืนสู่สภาพปกติในระยะเวลาหลายสัปดาห์หรือเดือน อย่างไรก็ตาม คุณควรดูแลรักษาให้ดีที่สุด เพื่อให้แผลนั้นหายได้ไวขึ้น โดยหลังการดูดไขมันคุณสามารถดำเนินการเพื่อให้แผลหายไวขึ้นและรักษาความสะอาดและสุขภาพของผิวหนังได้ดีขึ้นดังนี้:
1. รักษาความสะอาด: สิ่งสำคัญที่สุดคือการรักษาความสะอาดของแผลดูดไขมัน ควรทำความสะอาดแผลดูดไขมันอย่างอ่อนโยนโดยใช้น้ำสะอาดและสบู่อย่างอ่อนโยน 2 ครั้งต่อวัน หลังจากนั้นประคบแผลโดยผ้าสะอาด และประสานกับแพทย์หรือผู้ดูแลทางการแพทย์ในกรณีที่ต้องใช้ครีมทาแผลเฉพาะทาง
2. รักษาความชุ่มชื้น: การใช้ครีมหรือโลชั่นที่แพทย์แนะนำสามารถช่วยให้ผิวชุ่มชื้น เยียวยาผิวบริเวณที่เป็นแผล และรักษาความสมดุลของผิวหนังคุณ
3. การดูแลแผลอย่างอ่อนโยน: คุณควรประคบแผลอย่างอ่อนโยนเพื่อให้แผลได้ประสานและช่วยให้ผิวหนังเกิดการรักษาภายในตัวและหายขาดได้เร็วขึ้น
4. หลีกเลี่ยงแดด: หลีกเลี่ยงแสงแดดโดยตรงบนแผลหรือใช้ครีมกันแดดเพื่อป้องกันแผลจากการถูกแดดในระยะแรกหลังการดูดไขมัน เพราะแสงแดดอาจทำให้แผลดำและมีริ้วรอย
5. ควบคุมการบวม: การยกขาขึ้นหรือใช้หมอนที่สูงเมื่อนอนสามารถช่วยควบคุมการบวมและทำให้แผลหายไวขึ้น
6. รับประทานอาหารที่เหมาะสม: การรับประทานอาหารที่มีสารอาหารเพียงพอสามารถช่วยให้ร่างกายมีพลังงานเพียงพอในการฟื้นตัวและช่วยในกระบวนการหายขาดของแผล
7. การตรวจสุขภาพ: ควรมีการไปพบแพทย์เพื่อประมาณผิวหนังและแผลอย่างสม่ำเสมอ และปรึกษาแพทย์หากมีอาการผิดปกติหรือแนวโน้มที่ไม่ปกติของแผล
8. อุปกรณ์การสวมใส่: หากแพทย์แนะนำให้ใส่ชุดรัดแขนหรือชุดรับรองหลังการดูดไขมัน ควรปฏิบัติตามคำแนะนำและสวมใส่อย่างถูกต้อง
นอกจากนี้ การดูดไขมันที่ทำโดยสถานพยาบาลที่ได้รับมาตรฐานและทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในสาขานี้มักมีเทคนิคการทำแผลที่ละเอียดและลดร่องรอยแผลหลังแผลหาย และทางพยาบาลหรือแพทย์จะให้คำแนะนำอย่างละเอียดเกี่ยวกับการดูแลแผลให้แห้งและสะอาด เพื่อป้องกันการติดเชื้อหรือมีปัญหาอื่นๆ
คำแนะนำข้างต้นจะช่วยให้แผลดูดไขมันหายไวขึ้นและรักษาความสะอาดและสุขภาพของผิวหนังได้ดีขึ้น แต่ควรจำไว้ว่าการหายขาดของแผลอาจต่างกันไปในแต่ละบุคคล และต้องใช้เวลาต่างกัน หากคุณมีข้อกังวลหรือปัญหาในการดูแลแผลดูดไขมันหลังการดูดไขมัน คุณควรปรึกษาแพทย์หรือผู้ดูแลทางการแพทย์เพื่อขอคำแนะนำและการดูแลเพิ่มเติม
สรุปได้ว่า การดูดไขมันมักจะทำในบริเวณที่มีไขมันสะสมและต้องการลดไขมันออกเพื่อเปลี่ยนรูปร่างหรือให้ร่างกายดูมีสัดส่วนและสมส่วนมากขึ้น และการดูดไขมันนั้นจะไม่ส่งผลให้เกิดแผลใหญ่มากนัก จะมีแผลเล็กๆ ที่ใต้ผิวหนังซึ่งจะหายไปเองประมาณไม่กี่สัปดาห์หรือเดือน แต่ถ้าหากคุณอยากให้แผลหลังการดูดไขมันหายไวขึ้น คุณควรดูแลตามคำแนะนำข้างต้น เพื่อความสะอาดและช่วยให้แผลหายเร็วยิ่งขึ้น
สำหรับใครที่สนใจ สามารถติดต่อได้ที่
ณัฐชญา คลินิก (Natchaya Clinic)
เบอร์โทรศัพท์ 02-729-7490, 086-4000-466
Website: www.natchayaclinic.com
Facebook: facebook.com/NatchayaClinic
Line : @natchayaclinic