เคล็ดลับหยุดโยโย่เอฟเฟกต์ จากยาลดน้ำหนัก
หลายคนที่อยากลดน้ำหนักแต่ไม่อยากออกกำลังกายหรือไม่อยากควบคุมอาหาร มักจะใช้วิธีการรับประทานยาลดน้ำหนัก เพราะเชื่อว่า เป็นหนึ่งตัวช่วยในการลดน้ำหนักที่หลายคนเลือกเพื่อรีดน้ำหนักส่วนเกินออกจากร่างกาย เพราะเชื่อว่าสามารถช่วยให้น้ำหนักลดลงได้เร็ว ซึ่งจริง ๆ แล้วยาชนิดนี้มีทั้งคุณและโทษ จึงมีความจำเป็นที่ผู้คิดจะใช้ยาลดน้ำหนักต้องเรียนรู้เกี่ยวกับยาเหล่านี้ให้มากขึ้น เพื่อความปลอดภัย และการลดน้ำหนักอย่างมีประสิทธิภาพ ต้องบอกว่า ยาลดน้ำหนักบางตัว ทำให้เกิดอันตรายต่อร่างกาย เช่น ยาที่ช่วยลดความอยากอาหาร ยาในกลุ่มนี้ได้แก่ เฟนเตอมีน มีคุณสมบัติในการออกฤทธิ์กับประสาทส่วนกลาง ช่วยลดความอยากอาหาร เป็นยาที่ใช้ร่วมกับการออกกำลังกาย และควบคุมอาหารในผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงโรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง และภาวะคอเลสเตอรอลสูง โดยยาชนิดนี้มีผลข้างเคียงค่อนข้างมาก เพราะยามีลักษณะเป็นสารกระตุ้นคล้ายตัวยาแอมเฟตตามีน อีกทั้งยังจัดเป็นวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภท 2 ด้วย บางคนรับประทานยาลดน้ำหนัก นานๆไป อาจจะทำให้เกิดโย่โย่เอฟเฟกต์ เพราะยาลดความอ้วนจะไปออกฤทธิ์กดประสาท ทำให้ร่างกายรู้สึกอิ่มตลอดเวลา ทำให้ระบบการเผาผลาญมีการจดจำภาวะการทำงานของร่างกายแบบผิดปกติ หรือเกิดภาวะการขาดความสมดุลของร่างกายนั่นเอง ดังนั้น วันนี้ทางณัฐชญาคลินิก เราจะมาแนะเคล็ดลับหยุดโยโย่เอฟเฟกต์จากยาลดน้ำหนัก เพื่อเป็นแนวทางให้กับสาวๆที่เคยผิดพลาดจากการลดน้ำหนักแบบผิดวิธี
การเกิดโยโย่เอฟเฟกต์ หากเกิดขึ้นมาแล้วก็สามารถแก้ได้ยากอยู่เหมือนกัน นอกจากการกระตุ้นระบบเผาผลาญให้กลับมาดีดังเดิม ด้วยวิธีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทานและออกกำลังกายเสียใหม่ ก็ยังมีอีกหลายวิธีที่จะสามารถทำให้โยโย่เอฟเฟกต์หายไปได้ ซึ่งสาเหตุสำคัญของการเกิดโยโย่เอฟเฟกต์ ก็คือการอดอาหารจนระบบเผาผลาญพัง การจะกระตุ้นให้ระบบเผาผลาญกลับมาทำงานได้ดีตามเดิมนั้น ไม่ใช่การอดอาหาร แต่เป็นการแบ่งกินเป็นมื้อเล็กๆ แทนการกิน 3 มื้อใหญ่ เพื่อที่จะได้กระตุ้นระบบเผาผลาญให้ทำงานตลอดทั้งวัน นอกจากนี้ ไม่ควรที่ละเลยการรับประทานมื้อเช้า เพราะมื้อเช้านั้น มีความสำคัญจะทำให้ร่างกายเข้าสู่การลดการเผาผลาญพลังงานและจะส่งผลให้ร่างกายสะสมพลังงานในรูปแบบของไขมันมากขึ้น หากต้องการให้ร่างกายกลับเข้าสู่สภาวะปกติโดยเร็วก็ไม่ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานมื้อเช้า และควรเน้นรับประทานอาหารประเภทโปรตีน เพราะมีส่วนช่วยเพิ่มการเผาผลาญได้ อีกทั้งโปรตีนยังเป็นแหล่งพลังงานที่สำคัญในการช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอและอวัยวะต่างๆ ให้ทำงานได้อย่างปกติอีกด้วย โดยเราควรเลือกรับประทานโปรตีนที่ไม่มีไขมันปนหรือมีไขมันน้อย เช่น เนื้อไม่ติดมัน อกไก่ เนื้อปลา เพื่อหลีกเลี่ยงการรับไขมันเข้าไปสะสมในร่างกายเพิ่ม แต่ในขณะเดียวกัน ก็ควรลดการรับประทานของหวานด้วย เพราะอาหารหวานๆ ที่มีน้ำตาลผสมอยู่มาก เช่น ขนม น้ำหวานต่างๆ หากเรารับประทานเข้าไปมากเกินกว่าที่ร่างกายจะใช้หมด น้ำตาลส่วนเกินเหล่านี้จะถูกเปลี่ยนเป็นไขมัน เก็บไว้ในส่วนต่างๆ ของร่างกายทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นไปอีก
หากอยากรับประทานอาหารรสหวานลองเปลี่ยนมาเป็นผลไม้แทนก็จะดีกว่า เพราะมีประโยน์ต่อร่างกาย แต่ก็ควรรับประทานในปริมาณที่เหมาะสมด้วย และสุดท้ายก็คือ ควรออกกำลังกายอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นการเผาผลาญพลังงานส่วนเกิน และกระตุ้นให้ร่างกายได้ใช้กล้ามเนื้อในการเผาผลาญไขมัน การออกกำลังกายเป็นวิธีง่ายๆ ที่ช่วยได้อย่างดีเลยทีเดียว โดยเราสามารถที่จะออกกำลังกายด้วยวิธีไหนก็ได้ ไม่จำเป็นจะต้องไปเข้าฟิตเนสแต่อย่างใด หากเราไม่มีเวลามากนัก อาจออกกำลังกายง่ายๆ ที่บ้าน การทำงานบ้าน เช่น กวาดบ้าน ถูบ้าน ก็ถือเป็นการเผาผลาญพลังงานที่สามารถทำเพื่อทดแทนการออกกำลังได้เช่นกัน และสิ่งที่เราไม่ควรทำอีกอย่างหนึ่งก็คือ การดื่มน้ำเยอะๆ ควรจิบน้ำบ่อยๆ ระหว่างวันเพื่อกระตุ้นการเผาผลาญ การดื่มน้ำน้อยจนเกินไปแทนที่ร่างกายจะได้น้ำไปเลี้ยงเนื้อเยื่อและอวัยวะส่วนต่างๆ แต่จะทำให้ตับเก็บน้ำไว้แทน เพื่อเป็นการกระตุ้นการเผาผลาญให้กลับมาเป็นปกติและหลีกเลี่ยงอาการโยโย่เอฟเฟกต์ได้
หากใครสนใจเข้ารับการดูดไขมัน สามารถติดต่อขอรับคำแนะนำได้ที่ ณัฐชญาคลินิก ทางเรามีแพทย์เฉพาะทางที่จะสามารถให้คำปรึกษาได้อย่างถูกต้อง ช่วยตรวจวิเคราะห์ปัญหาและความต้องการแบบเฉพาะตัวบุคคล เพื่อให้การรักษาสามารถตอบโจทย์ในเรื่องของสุขภาพและความงามที่ครอบคลุมและตรงจุด เพื่อที่สุดแห่งความมั่นใจและพึงพอใจของผลลัพธ์ในราคาที่เกินคุ้มอย่างแน่นอน ทั้งนี้ คลินิกของเรา ยังเป็นสถานการบริการที่มีความสะอาด ปลอดภัย มีเครื่องมือและอุปกรณ์ในการรักษาที่มีมาตรฐาน มีความทันสมัย รับรองได้ว่า ลูกค้าจะได้รับบริการที่มีความปลอดภัย น่าเชื่อถือ 100% อย่างแน่นอน
สำหรับใครที่สนใจ สามารถติดต่อได้ที่
ณัฐชญา คลินิก (Natchaya Clinic)
เบอร์โทรศัพท์ 02-729-7490, 086-4000-466
Website: www.natchayaclinic.com
facebook: facebook.com/NatchayaClinic
Line : @natchayaclinic