อ้วนหลังคลอดเกิดจากอะไร ?
ปัญหาหนักใจของบรรดาคุณแม่มือใหม่ ที่หลังคลอดบุตรต้องประสบกับปัญหาน้ำหนักตัวที่เพิ่มมากขึ้น หรือมีรูปร่างสัดส่วนที่ไม่กระชับ หน้าท้องย้วย ทำให้รู้สึกไม่มั่นใจหลายคนอาจจะต้องหาวิธีการฟื้นคืนหุ่นให้กลับมาโดยเร็ว แต่โดยปกติน้ำหนักของแม่จะลดลงทันทีหลังคลอดประมาณ 6 กิโลกรัม และจะลดลงอีกเรื่อยๆเมื่อร่างกายขับน้ำส่วนเกินที่สะสมอยู่ออกไป สาเหตุที่บางครั้ง คุณแม่หลังคลอดเมื่อคลอดแล้วไม่ได้ผอมทันที ก็เพราะร่างกายยังเก็บสะสมสารอาหารเอาไว้เพื่อผลิตน้ำนมให้กับลูกในช่วง 6 เดือนแรกนั่นเอง จึงทำให้ยังคงมีน้ำหนักเกินหรือมากกว่าก่อนตั้งครรภ์อยู่บ้าง แต่เมื่อเวลาผ่านไปน้ำหนักก็จะค่อยๆลดลงตามธรรมชาติของร่างกาย ดังนั้น วิธีการง่ายไที่จะช่วยทำให้น้ำหนักของคุณแม่ลดลงได้นั้น ก็คือ ควรใส่ใจสุขภาพของตัวเอง ภายหลังการคลอดหากมีสุขภาพแข็งแรงและในระหว่างการตั้งครรภ์สามารถควบคุมน้ำหนักได้ตามเกณฑ์ ก็จะมีแรงในการทำสิ่งต่าง ๆ ได้มากขึ้น
ทำให้น้ำหนักตัวลดลงกลับคืนสู่สภาพปกติได้ภายใน 3-5 เดือน หรือแม้กระทั่ง การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ที่สามารถช่วยลดไขมันในร่างกายไปได้อย่างมาก เพราะกระบวนการที่ร่างกายสร้างน้ำนมนั้นจะมีการดึงเอาไขมันในร่างกายไปใช้ และการให้นมแม่ในแต่ละวันสามารถช่วยเผาผลาญพลังงานในร่างกายของไปได้ถึง 500-800 กิโลแคลอรีต่อวัน และสามารถช่วยลดขนาดส่วนเกินของสะโพก หน้าท้อง ต้นแขน และต้นขาได้เป็นอย่างดี แต่คุณแม่หลายคนอาจะสงสัยว่า อาการอ้วนหลังคลอดนั้นเกิดจากอะไร แม้ว่าจะเราจะควบคุมน้ำหนักอย่างดีแล้วก็ตาม ซึ่งวันนี้ทางณัฐชญาคลินิก เราจะมาพูดถึงประเด็นดังกล่าวกัน เพราะอาการอ้วนหลังคลอดเกิดได้จากหลายสาเหตุ
สาเหตุที่ทำให้คุณแม่หลังคลอดหลายคนมีน้ำหนักตัวที่มาก และน้ำหนักก็ไม่ยอมลดสักทีแม้ว่าคลอดบุตรมานานหลายเดือนแล้วนั่นก็คือ การรับประทานอาหารทั้งระหว่างและหลังจากการตั้งครรภ์ เพราะความอยากอาหารระหว่างการตั้งครรภ์ และการรับประทานอาหารเพื่อให้ทารกในท้องเติบโตอย่างแข็งแรง ในปริมาณที่อาจจะมากเกินไป ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้คุณแม่หลังคลอดอ้วนขึ้นจากเดิม แม้ว่าในช่วง 6 สัปดาห์ น้ำหนักจะกลับไปใกล้เคียงเท่าก่อนตั้งครรภ์ แต่น้ำหนักส่วนเกินที่เพิ่มมาจากตอนตั้งครรภ์ก็ทำให้น้ำหนักไม่สามารถเท่ากับก่อนตั้งครรภ์หากไม่ลดน้ำหนักร่วมด้วย นอกจากนี้ ภาวะซึมเศร้าหลังคลอด ที่มักจะเกิดขึ้นกับคุณแม่หลังคลอดแทบทุกคน ทำให้มีอารมณ์แปรปรวน วิตกกังวล ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนเอสโตรเจนกับโปรเจสเตอโรนที่ต่ำลงทันทีหลังคลอด และภาวะซึมเศร้าหลังคลอด
อาจจะทำให้คุณแม่ไม่ยอมรับประทานอาหาร จนทำให้เกิดความอ้วนได้ แต่อาการนี้จะเป็นไม่เกิน 6 สัปดาห์ และอาจไม่เกิดขึ้นหลังคลอดทุกคน หากคิดว่าตัวเองอาจจะเป็นซึมเศร้าหลังคลอดควรปรึกษาแพทย์เพื่อทำทำให้สุขภาพร่างกายและจิตใจกลับมาเข้มแข็ง และยังทำให้ลดการเกิดความอ้วนได้อีกด้วย รวมไปถึงการพักผ่อนไม่เพียงพอของคุณแม่ก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่สำคัญที่ทำให้น้ำหนักไม่ลงสักที เพราะการเลี้ยงลูก อาจจะทำให้คุณแม่แทบจะไม่มีเวลาพักผ่อน ส่งผลกระทบกับสุขภาพและรูปร่างโดยตรง เนื่องจากการพักผ่อนไม่เพียงพอ ส่งผลให้เกิดความหิวบ่อย รบกวนอัตราการเผาผลาญอาหาร ร่างกายเผาผลาญพลังงานได้น้อย ดังนั้นควรจะต้องพักผ่อนให้เพียงพอ
ทั้งนี้ ยังมีสาเหตุอีกหนึ่งสาเหตุที่สำคัญ นั่นก็คือ ภาวะกล้ามเนื้อหน้าท้องแยก สามารถพบได้บ่อย ถึง 2 ใน 3 ของหญิงตั้งครรภ์ทั้งหมด โดยงานวิจัยชี้ว่า 33-60% ของหญิงตั้งครรภ์ที่มีปัญหากล้ามเนื้อหน้าท้องแยก และหลายคนก็อาจจะไม่ทราบว่าตัวเองมีปัญหานี้ และมีโอกาสเกิดขึ้นได้หลายกรณี ไม่ว่าจะเป็นการมีลูกมากกว่าหนึ่งคน การมีครรภ์แฝด การที่ทารกในครรภ์มีน้ำหนักตัวมาก หรือตั้งครรภ์หลังอายุ 35 ปีขึ้นไปแล้ว เมื่อคลอดแล้วกล้ามเนื้อหน้าท้องที่แยกออกจะยังไม่ยุบลงทันที ซึ่งต้องอาศัยการออกกำลังกายที่ถูกต้องหลังคลอดนั่นเอง แต่อย่างไรก็ตาม การอ้วนหลังคลอดนั้น ก็สามารถแก้ได้ด้วยการดูดไขมัน ซึ่งคุณแม่ที่สนใจดูดไขมันหลังตั้งครรภ์ ควรจะต้องปรึกษาแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจ เพื่อความปลอดภัยและผลกระทบที่อาจจะส่งผลต่อการให้นมบุตร
หากใครสนใจเข้ารับการเสริมความสวยความงาม สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดในการเข้ารับบริการได้ที่ ณัฐชญาคลินิก ทางเรามีทีมแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ เป็นแพทย์เฉพาะทางที่มีประสบการณ์ทางด้านความสวยความงาม มาอย่างยาวนาน มีสถานการบริการที่มีความสะอาด ปลอดภัย เปิดอย่างถูกต้องตามกฎหมาย พร้อมมาตรฐานการทำงานที่ถูกต้องตามหลักวิชาการ เพื่อความพึงพอใจและปลอดภัยอย่างสูงสุดของลูกค้า
สำหรับใครที่สนใจ สามารถติดต่อได้ที่
ณัฐชญา คลินิก (Natchaya Clinic)
เบอร์โทรศัพท์ 02-729-7490, 086-4000-466
Website: www.natchayaclinic.com
facebook: facebook.com/NatchayaClinic
Line : @natchayaclinic